วันพุธที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๗  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำสรง เพื่อเชิญไปสรงพระพุทธมหามุนี (หลวงพ่อโต) ในงานนมัสการและสรงน้ำหลวงพ่อโต “บูชาพระใหญ่ ไหว้ตรุษสงกรานต์ สนานธรรมราช” ประจำปี ๒๕๖๗ ณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
          เวลา ๑๔.๓๙ น. นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นผู้อัญเชิญน้ำสรงพระราชทาน จากศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ขึ้นรถบุษบกขบวนแห่ โดยขบวนแห่รอบจังหวัดศรีสะเกษไปยังวัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง จากนั้น เวลา ๑๖.๐๙ น. นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นผู้อัญเชิญน้ำสรงพระราชทาน ลงจากรถบุษบก เข้าสู่พระวิหารหลวงพ่อโต ซึ่งมี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนส่วนราชการ และประชาชนร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน
           เวลา ๑๗.๐๙ น. ประกอบพิธีสรงน้ำสรงพระราชทานพระพุทธมหามุนี (หลวงพ่อโต) โดยมี พระธรรมวัชรวิสุทธิ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๐ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พระวชิรสิทธิธาดา เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าอาวาสวัดมหาพุทธาราม พระเถรานุเถระ พระภิกษุ สามเณร และมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ ผู้พิพากษาหัวศาลจังหวัดศรีสะเกษ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ อัยการจังหวัดศรีสะเกษ อัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนส่วนราชการ ประชาชน ทายกทายิกาวัดมหาพุทธาราม ร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน
          ในการนี้ นายอัครนันท์ นนทา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ เป็นผู้อ่านหมายรับสั่งสำนักพระราชวัง และมอบหมายให้บุคลากรในสังกัดปฏิบัติหน้าที่สนองานคณะสงฆ์ ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายพิธีการ และอำนวยความสะดวกตลอดพิธีการ
          พระพุทธมหามุนีหรือหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ มีความศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองศรีสะเกษ ปางมารวิชัย สกุลช่างจำปาสัก สร้างเมื่อราวปี พ.ศ. ๒๓๒๘ มีขนาดตั้งแต่รากฐานถึงยอด พระเมาลีสูง ๖.๘๕ เมตร หน้าตักกว้าง ๓.๕๐ เมตร มีนามว่า หลวงพ่อโตองค์ตื้อ แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า หลวงพ่อโต นามทางการว่า พระพุทธมหามุนี เมื่อ พ.ศ.  ๒๕๐๙ มีการสร้างวิหารใหญ่ครอบ มีความกว้าง ๑๔ เมตร ยาว ๔๐ เมตร  และได้เปลี่ยนชื่อ วัดป่าแดง เป็น วัดพระโต ตั้งแต่บัดนั้น พ.ศ. ๒๔๙๐ คณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีมติให้เปลี่ยนชื่อ วัดพระโต มาเป็น วัดมหาพุทธาราม ต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะ เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อ วันที่ ๒๙ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ นับเป็นพระอารามหลวงแห่งที่ ๓ ของจังหวัดศรีสะเกษ ในช่วงเดือนเมษายน ระหว่างเทศกาลสรงกรานต์ของทุกปี วัดมหาพุทธาราม มีประเพณีที่สำคัญที่ถือปฏิบัติมาโดยตลอด คือ งานนมัสการและสรงน้ำหลวงพ่อโต   ในปี ๒๕๖๗ นี้ วัดพระโต จึงได้กำหนดจัดงานนมัสการและสรงน้ำหลวงพ่อโต ประจำปี ๒๕๖๖ “บูชาพระใหญ่ ไหว้ตรุษสงกรานต์ สนานธรรมราช” ขึ้น ในวันที่ ๑๐ – ๑๖ เมษายน ๒๕๖๖ รวมเวลา ๗ วัน ๗ คืน  โดยมีวัตถุประสงค์ คือ ๑. เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้นมัสการ และสรงน้ำหลวงพ่อโต ๒. เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งบริบทด้านประวัติศาสตร์ ความเชื่อ และวัฒนธรรม โดยการมีส่วนร่วมของพลังบวร บ้าน วัด โรงเรียน ส่วนราชการ องค์กรเอกชน และชุมชนในท้องถิ่น ๓. เพื่อเผยแผ่และส่งเสริมกิจการทางพระพุทธศาสนาของพุทธบริษัท ในพื้นที่และปริมณฑล และเพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคี ของชุมชน วัด บ้าน โรงเรียน และส่วนราชการ